การซื้อขาย CFD

‘สัญญาซื้อขายส่วนต่าง’ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า CFDs เป็นผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ที่สามารถซื้อขายได้ ซึ่งติดตามราคาของตลาดการเงินทั่วโลก

ค่าเลเวอเรจหรืออัตราเงินยืมจากโบรกเกอร์อัตราสูงสุด 1:500

ดำเนินการภายใน <13 มิลลิวินาที

T+0 ถอนเงินได้รวดเร็ว

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถเทรด100+

CFD คืออะไร?

‘สัญญาซื้อขายส่วนต่าง’ หรือที่เรียกกันว่า CFDs เป็นผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ที่สามารถซื้อขายได้ซึ่งติดตามราคาของตลาดการเงินทั่วโลก CFD ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงสินทรัพย์พื้นฐานโดยตรงโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ คุณจะทำกำไรหรือขาดทุนขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาในสินทรัพย์พื้นฐานนั้น

ความโปร่งใสเต็มรูปแบบของดอกเบี้ยข้ามคืน

ที่อัตราดอกเบี้ยที่กำลังใช้อยู่

การซื้อขาย CFD ทำงานอย่างไร?

CFD เป็นข้อตกลงระหว่างสองฝ่าย โดยปกติจะเป็นผู้ซื้อขายและโบรกเกอร์ CFD เพื่อซื้อขายส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ทางการเงินตั้งแต่เริ่มต้นสัญญาจนถึงปิดสัญญา ในแง่ของกำไรและขาดทุน เมื่อซื้อขาย CFD หากตลาดเป็นไปตามการคาดการณ์ของผู้ซื้อขาย ตำแหน่งของพวกเขาจะมีกำไร ตรงกันข้าม หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับการคาดการณ์ ผู้ซื้อขายจะขาดทุน ในที่สุด ผู้ซื้อขายจะได้รับกำไรเหล่านี้หรือรับรู้ถึงการขาดทุนเมื่อปิดตำแหน่งหลังจากขายสัญญาที่พวกเขาซื้อมาในตอนแรก

การซื้อขายด้วยเลเวอเรจคืออะไร?

เลเวอเรจเป็นแนวคิดที่ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มการเข้าถึงสินทรัพย์ทางการเงินโดยไม่ต้องลงทุนเงินทุนทั้งหมดที่จำเป็นในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้น เมื่อทำการซื้อขาย CFD คุณกำลังมีส่วนร่วมในการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนเงินทุนทั้งหมดตามมูลค่าของการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น ด้วยเลเวอเรจ 1:10 ความต้องการมาร์จิ้นเริ่มต้นของคุณสำหรับ CFD ตัวนี้คือ 10% ซึ่งหมายความว่าคุณต้องวางเงิน $100 เพื่อให้ได้การเข้าถึงมูลค่าที่สูงถึง $1,000 เช่นเดียวกัน เลเวอเรจสูงสุดที่ 1:30 หมายความว่าด้วยเงิน $100 คุณสามารถได้รับผลลัพธ์ของเงินทุน $3,000 ผลกำไรหรือขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจะถูกคูณตามเลเวอเรจที่คุณใช้

การจัดการความเสี่ยงเมื่อทำการซื้อขาย CFDs

วิธีการบางประการที่ผู้ค้าสามารถลดความเสี่ยงในการซื้อขาย CFDs ได้รวมถึงการใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เช่น การปิดเมื่อมีกำไร (Close at Profit), การหยุดขาดทุน (Stop Loss), การหยุดที่รับประกัน (Guaranteed Stop), และการหยุดลาก (Trailing Stop)

การปิดเมื่อมีกำไร/การหยุดขาดทุน (Close at Profit/Stop Loss):

เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าเมื่อใดที่คุณควรปิดตำแหน่ง (เมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด) เพื่อปกป้องกำไรของคุณหรือเพื่อลดการขาดทุนให้น้อยที่สุด

การหยุดที่รับประกัน (Guaranteed Stop):

การใช้เครื่องมือนี้จะช่วยจำกัดความเสี่ยงของคุณจากการขาดทุนที่มากเกินไป ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่รุนแรง แม้ว่าราคาของสินทรัพย์จะเคลื่อนไหวอย่างมากก็ตาม

การหยุดลาก (Trailing Stop):

คำสั่งนี้จะช่วยรักษากำไรโดยการปิดตำแหน่งของคุณโดยอัตโนมัติหากราคามีการเปลี่ยนทิศทาง

หากต้องการเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง คุณสามารถไปที่บทความใน Trading Academy ของเราเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยง นอกจากเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงแล้ว ผู้ค้าควรศึกษากราฟการซื้อขายเพื่อเข้าใจราคาที่ผ่านมาอย่างดียิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่า รูปแบบราคาที่ผ่านมาไม่สามารถบ่งชี้ถึงผลลัพธ์ในอนาคตได้

การซื้อขาย CFD มีความยืดหยุ่นและมีศักยภาพในการทำกำไรสูง แต่ต้องมีความเข้าใจในตลาดและการปฏิบัติการจัดการความเสี่ยงอย่างดี เนื่องจากความผันผวนและผลกระทบของเลเวอเรจที่มีอยู่ในตัว

การเทรด CFD กับการเทรดแบบดั้งเดิม

CFD (Contract for Difference) เป็นเครื่องมือการเทรดที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาของหลักทรัพย์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์พื้นฐาน ข้อดีหลักของการเทรด CFD มาจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์เอง ไม่ใช่จากการเป็นเจ้าของสินทรัพย์
สินทรัพย์พื้นฐานอาจรวมถึงหุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงินดิจิทัล หรือสกุลเงิน CFD ดึงดูดนักลงทุนเนื่องจากสามารถเทรดโดยใช้เลเวอเรจ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถเปิดตำแหน่งด้วยเงินทุนที่น้อยกว่าที่จำเป็นในการซื้อสินทรัพย์จริง
ความแตกต่างหลักระหว่างการเทรดหุ้นและการเทรด CFD คือเลเวอเรจและการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ เมื่อคุณซื้อหุ้น คุณจะได้หุ้นและกลายเป็นเจ้าของบางส่วนของบริษัท โดยจ่ายราคาหุ้นเต็มจำนวน ในขณะที่การเทรด CFD ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของสินทรัพย์โดยตรงหรือการมีตัวตนทางกายภาพในตลาดหลักทรัพย์
ด้วยข้อกำหนดเงินทุนที่ลดลง นักลงทุนมือใหม่สามารถเข้าถึงตลาดการเงินที่หลากหลายมากขึ้น แพลตฟอร์มอย่าง WisunoFX ช่วยให้นักลงทุนสามารถเทรดผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายจากความสะดวกของคอมพิวเตอร์ที่บ้าน

6 ข้อดีของ CFD

เทรดตำแหน่งยาวและสั้น

CFD ช่วยให้คุณสามารถเปิดตำแหน่งยาวและสั้นได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเซ็นสัญญา—เพียงกดปุ่มซื้อหรือขาย

เข้าถึงตลาดที่หลากหลาย

นักเทรดสามารถเข้าถึงตลาดที่หลากหลายแบบเรียลไทม์ รวมถึง CFD หุ้นท้องถิ่นและนานาชาติ สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนี

การเทรด 24/5

ตลาด CFD เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งมีการเข้าถึงที่สะดวกกว่าตลาดหลักทรัพย์ที่มีเวลาทำการจำกัด

ไม่มีค่าธรรมเนียมสแตมป์สำหรับการเทรด CFD

เนื่องจากคุณไม่เป็นเจ้าของสินทรัพย์พื้นฐานจริง การเทรด CFD จึงได้รับการยกเว้นจากค่าธรรมเนียมสแตมป์

ข้อกำหนดมาร์จิ้นต่ำกว่า

CFD ต้องการมาร์จิ้นในการเปิดตำแหน่งน้อยกว่าการเทรดแบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่าเงินทุนของคุณจะไม่ถูกผูกพันในธุรกรรมเดียว แม้ว่าคุณจะต้องจำไว้ว่าการขาดทุนสามารถเพิ่มขึ้นเมื่อเทรดด้วยมาร์จิ้น

ทำกำไรจากราคาที่เพิ่มขึ้นและลดลง

CFD ช่วยให้คุณทำกำไรจากตลาดที่ทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงผ่านการขายชอร์ต ซึ่งเปิดโอกาสให้ทำกำไรไม่ว่าจะเป็นทิศทางของตลาด

หมายเหตุ: กฎหมายภาษีอาจแตกต่างและเปลี่ยนแปลงได้ ควรขอคำแนะนำภาษีอิสระก่อนการตัดสินใจลงทุน

ข้อเสียของ CFD

ความเสี่ยงในการขาดทุนขนาดใหญ่

การเทรด CFD ด้วยมาร์จิ้นอาจนำไปสู่กำไรที่มาก แต่ก็ทำให้คุณเสี่ยงต่อการขาดทุนขนาดใหญ่เนื่องจากลักษณะการใช้เลเวอเรจของเครื่องมือเหล่านี้

ความเสี่ยงในการสูญเสียเงินฝากทั้งหมด

หากไม่มีการตั้งค่าหยุดขาดทุน คุณอาจสูญเสียเงินฝากทั้งหมด รวมถึงกำไรที่เกิดขึ้นจริง

ไม่เหมาะสำหรับการปกป้องเงินทุนหรือความมั่นคง

CFD โดยทั่วไปจะเป็นการเทรดระยะสั้นและผันผวน ทำให้ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการการปกป้องเงินทุนหรือผลตอบแทนที่มั่นคง

ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง

ความผันผวนและการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วของ CFD ทำให้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความเสี่ยง

การป้องกันความเสี่ยงที่ไม่สมบูรณ์

เมื่อใช้เพื่อการป้องกันความเสี่ยง CFD อาจไม่ตรงกับราคาตลาดจุดเนื่องจากการตั้งราคาในอนาคต ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดทุนได้

ไม่เหมาะสำหรับผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้

เนื่องจากเลเวอเรจและความผันผวนของตลาด CFD จึงไม่เสนอผลตอบแทนที่สม่ำเสมอหรือคาดการณ์ได้ ทำให้ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลลัพธ์ที่มั่นคง

ภาพรวมของโบรกเกอร์ CFD

Contracts for Difference (CFD) ให้ทางเลือกในการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทโดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าทางกายภาพ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ CFD ใหม่ๆ ถูกนำเสนออย่างสม่ำเสมอ จึงต้องมีตัวกลางในการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมเหล่านี้ การเทรด CFD ไม่เหมือนกับตลาดดั้งเดิมที่มีตลาดกลาง แต่จะพึ่งพาโบรกเกอร์ในการดำเนินการธุรกรรม โบรกเกอร์ CFD เสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายให้นักลงทุนเลือก

แม้ว่า CFD จะมีข้อดีสำหรับการเทรดระยะสั้นและการป้องกันความเสี่ยง การเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักลงทุนใหม่ ด้วยโบรกเกอร์จำนวนมากที่ให้บริการที่แข่งขันได้ การเลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดต้องใช้การวิจัยอย่างละเอียด

เพื่อดึงดูดลูกค้า โบรกเกอร์มักจะพัฒนาชุดบริการและฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าเป้าหมาย บางโบรกเกอร์มุ่งเน้นการให้บริการสำหรับนักลงทุนสถาบัน ในขณะที่บางโบรกเกอร์ให้บริการสำหรับนักเทรดปลีก โบรกเกอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจะเสนอประโยชน์ที่ปรับแต่งตามฐานลูกค้าที่หลากหลาย รวมถึงแพลตฟอร์มเฉพาะที่รองรับความต้องการของนักลงทุนที่แตกต่างกัน โบรกเกอร์จะได้รับรายได้จากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักเทรด

ในฐานะที่เป็นนักเทรดฟอเร็กซ์ คุณอาจพบค่าธรรมเนียมดังต่อไปนี้จากโบรกเกอร์ CFD ฟอเร็กซ์:

สเปรดคงที่

สเปรดจะคงที่ ดังนั้นนักเทรดจะรู้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายก่อนการดำเนินการธุรกรรม

สเปรดลอยตัว

สเปรดจะแตกต่างกันตามความผันผวนของตลาดและเวลาการเทรด

ค่าคอมมิชชั่น

ค่าคอมมิชชั่นอาจใช้กับการเทรดหรือการถอนเงิน โดยมักคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของสเปรด

เมื่อเทรด CFD คุณจะคาดการณ์ความแตกต่างของราคาระหว่างการเปิดและปิดสัญญา เพื่อปกป้องการลงทุนของคุณ สิ่งสำคัญคือการเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุม ผู้ควบคุมจะประเมินความสามารถในการแข่งขันและมาตรฐานความปลอดภัยของโบรกเกอร์ในเขตอำนาจของตน หน่วยงานกำกับดูแลที่โดดเด่นรวมถึง ASIC, ESMA, BVIFSA, IFSC, FCA, FSA และ CIMA สำหรับการรวมกันของความปลอดภัยและเงื่อนไขการแข่งขัน หน่วยงานกำกับดูแลอย่าง CySEC เป็นที่แนะนำอย่างสูง

แพลตฟอร์มการเทรด CFD

แพลตฟอร์มการเทรด CFD เป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ที่จัดหาโดยโบรกเกอร์และสถาบันการเงินที่ช่วยให้การเทรดดิจิทัลระยะไกล สามารถทำการซื้อหรือขาย CFD โดยไม่จำเป็นต้องเยี่ยมชมตลาดหลักทรัพย์หรือสื่อสารโดยตรงกับโบรกเกอร์ ตราบใดที่คุณเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือที่รองรับ

แพลตฟอร์มการเทรดพื้นฐานมักมีให้ดาวน์โหลดเป็นแอปสำหรับ Android หรือ iOS ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นในการทำความรู้จักกับการทำงานของตลาด แพลตฟอร์มที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นซึ่งสามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์เสนอเครื่องมือตั้งค่าต่างๆ สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์

แพลตฟอร์มเหล่านี้มักเป็นบริการฟรีเมื่อคุณเปิดบัญชีด้วยโบรกเกอร์ หลายแพลตฟอร์มยังมีเวอร์ชันเดโมให้คุณทดสอบแพลตฟอร์มด้วยเงินเสมือนก่อนที่จะฝากเงินจริง

ข้อพิจารณาสำคัญสำหรับแพลตฟอร์มการเทรด CFD

1. ฟังก์ชันการทำงาน

แพลตฟอร์มการเทรดให้ส่วนติดต่อในการติดตามราคาจริงและตัดสินใจการเทรด รวมถึงกราฟ ข่าวสาร และการแจ้งเตือนการวิจัยเพื่อสนับสนุนการเทรดและการจัดการพอร์ตโฟลิโออย่างมีข้อมูล

2. การติดตามที่ครอบคลุม

ออกแบบมาเพื่อช่วยนักเทรดติดตามพอร์ตโฟลิโอ เข้าถึงกราฟ และติดตามข่าวสารและการวิจัยทั้งหมดในที่เดียว

3. ความหลากหลายของเครื่องมือ

แพลตฟอร์มให้การเข้าถึงเครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย และโบรกเกอร์มักจะให้บริการตัวเลือกที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าแต่ละประเภท

การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม: ข้อพิจารณาหลัก

เมื่อเลือกแพลตฟอร์มการเทรด CFD ที่เหมาะสมสำหรับความต้องการของคุณ ให้แน่ใจว่ามีข้อกำหนดต่อไปนี้:

1. ค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล

แพลตฟอร์มการเทรดมักมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งพวกเขาจะเรียกเก็บจากนักเทรดในรูปแบบของค่าธรรมเนียมการถอน ค่าคอมมิชชั่น และสเปรด เลือกโบรกเกอร์ที่มีอัตราค่าคอมมิชชั่นต่ำ WisunoFX ตัวอย่างเช่น เสนอสเปรดที่แข่งขันได้สูง ช่วยให้คุณเทรดด้วยต้นทุนที่ต่ำและไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมนอกเหนือจากสเปรด Bid-Ask WisunoFX ยังยกเว้นค่าธรรมเนียมธนาคาร ซึ่งเพิ่มความสามารถในการทำกำไรในการเทรดของคุณ

2. ความหลากหลายของเครื่องมือการเทรด

บางแพลตฟอร์มเสนอคู่ CFD ที่หลากหลาย ขณะที่บางแพลตฟอร์มมีเพียงไม่กี่ตัวเลือก WisunoFX ให้เลือกเครื่องมือ CFD ที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้การกระจายพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์พื้นฐาน ความหลากหลายนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าถึงตลาดและกลุ่มสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน จัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น และเพิ่มผลตอบแทนได้ WisunoFX ยังให้การเข้าถึงตลาดที่แปลกใหม่เช่น ไทย เกาหลี ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เพิ่มการจัดการความเสี่ยงและการกระจายพอร์ตโฟลิโอ

3. ความสะดวกในการใช้งาน

เลือกแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นและนักเทรดที่มีประสบการณ์ WisunoFX เสนอเครื่องมือต่างๆ เช่น สัญญาณการเข้า/ออก ข่าวสารตลาดโลก และการคาดการณ์ระดับ Pivot ระยะยาว ซึ่งช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้ดี นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังให้เคล็ดลับจากนักวิเคราะห์และตัวบ่งชี้ราคาเพื่อช่วยแนะนำกลยุทธ์การเทรด

4. ชื่อเสียงของโบรกเกอร์

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มมีชื่อเสียงดี โดยตรวจสอบรีวิวและอันดับ และยืนยันว่าได้รับใบอนุญาตและการควบคุม WisunoFX ได้รับการยอมรับและควบคุมในเขตอำนาจหลายแห่ง รวมถึงสหราชอาณาจักร ไซปรัส และมอริเชียส บริษัทได้รับรางวัลหลายรางวัลสำหรับความเป็นเลิศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้บริการที่มีคุณภาพสูงและความไว้วางใจจากลูกค้า

5. การเทรดแบบเดโม

ใช้ฟีเจอร์การเทรดแบบเดโมเพื่อฝึกฝนด้วยเงินเสมือนและทำความรู้จักกับแพลตฟอร์มก่อนที่จะฝากเงินจริง บัญชีเดโมของ WisunoFX MT4 ช่วยให้คุณทดลองกลยุทธ์การเทรดได้โดยไม่เสี่ยง และมีให้บริการบนเดสก์ท็อป แท็บเล็ต และอุปกรณ์มือถือ

6. การสนับสนุนลูกค้า

การสนับสนุนลูกค้าที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการแก้ไขปัญหาทางเทคนิค WisunoFX เสนอการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน พร้อมหลายภาษา และได้รับรางวัลระดับนานาชาติเพื่อการตอบสนองและคุณภาพ ทีมสนับสนุนพร้อมให้ความช่วยเหลือในการตั้งค่าบัญชี การนำทางแพลตฟอร์ม และคำถามอื่นๆ